หน้าแรก 9 THE HIGHLIGHTS 9 ด้วยการทรงนำ – ดาไร วงศ์เวชกรรม

ด้วยการทรงนำ – ดาไร วงศ์เวชกรรม

ด้วยการทรงนำ – ดาไร วงศ์เวชกรรม

ศิษย์เก่า คริสตจักรห้วยน้ำขาว

“อาจารย์ดาไร”เป็นคำเรียกที่คุ้นชินติดปากของบรรดาคนที่รู้จักผู้รักษาการณ์ศิษยาภิบาลประจำคริสตจักรบ้านเปี่ยมรัก อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เมื่อเขาย้ายจากเชียงใหม่ เพื่อมาทำงานรับใช้อย่างเต็มตัวไกลถึงจังหวัดระยอง นับว่าเป็นเรื่องท้าทายสำหรับช่วงชีวิตวัย 24 ปี ที่ยังเรียกได้ว่าเด็กจบใหม่ในการบุกเบิกคริสตจักรที่เพิ่งตั้งขึ้น ทั้งต้องเดินหน้าประกาศและดูแลสมาชิกประจำกว่า 40 คน ไปพร้อมๆ กัน

อะไรที่นำตัวเองมาอยู่ในจุดนี้?

อาจารย์ดาไรได้ให้คำตอบโดยการเล่าย้อนความไปถึง 7 ปีที่แล้ว ช่วงที่เขาเพิ่งได้เข้าโครงการภายใต้การสนับสนุนของคอมแพสชั่นใหม่ๆ เพราะพ่อพามาสมัครเข้าศูนย์พัฒนาเด็กและหอพักคริสตจักรห้วยน้ำขาวเพื่อให้เขาได้มีโอกาสเรียนหนังสือ ด้วยความที่พื้นเพภูมิลำเนาเดิมอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ของอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ห่างไกลตัวเมืองและยังไม่มีโรงเรียนสักแห่งมาก่อตั้ง ทำให้พ่อเป็นห่วงว่าเขาจะไม่ได้รับการศึกษาเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน จึงฝากฝังเขาไว้ให้เจ้าหน้าที่ในโครงการช่วยดูแลจนกว่าจะเรียนจบ

ในวันที่อธิษฐานขอพระเจ้าให้รักษาอาการป่วยจากแผลในจมูกก่อนจะไปพบแพทย์ อาจารย์ดาไรในวัย 12 ปี ก็เชื่ออย่างสุดใจว่าพระเยซูจะช่วยรักษา กระทั่งอาการป่วยหายขาดพร้อมกับการตัดสินใจรับเชื่อและตั้งมั่นว่าจะติดตามพระเจ้า จากนั้นชีวิตในโครงการของเขาก็เรียกได้ว่าติดสนิทกับพระเจ้ามาโดยตลอด ได้รับทั้งการเติมเต็มฝ่ายร่างกายและจิตวิญญาณโดยพี่ๆ เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลและตักเตือนให้อยู่ในร่องในรอยมาเสมอ

แม้ความฝันดั้งเดิมของอาจารย์ดาไรจะเป็นการเรียนต่อเพื่อมุ่งเป้าไปยังอาชีพครูสอนวิชาพละ แต่เขาก็ตัดสินใจเลือกศึกษาพระคัมภีร์ในท้ายที่สุดด้วยเหตุผลเพราะพระเจ้าทรงนำ

หลังจากที่จบ ม.6 พระเจ้าก็ทำอะไรบางอย่างในจิตใจผม  โดยการเปิดใจให้เรียนพระคัมภีร์และรับใช้พระองค์ ทั้งที่ไม่เคยคิดถึงทางนี้มาก่อน  พระเจ้าจะนำไปตรงไหน จะใช้อย่างไร ผมก็จะตอบสนองต่อเสียงของพระองค์ที่ทรงเรียก”

เขาเลือกศึกษาต่อที่พระคริสตธรรมกรุงเทพฯ (BBS) พาตัวเองเข้าสังคมใหญ่อย่างเมืองหลวงเพื่อเปิดประสบการณ์และค้นหาตัวตน โดยเรียนรู้จากอาจารย์และเพื่อนๆ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตและทำให้กลายมาเป็น “อาจารย์ดาไร” อย่างทุกวันนี้

ทีแรก เขาตั้งใจไว้ว่าจะทำงานรับใช้กับกลุ่มอนุชน เพราะต้องการจะช่วยเหลือเด็กๆ ให้เติบโตขึ้นในทางของพระเจ้า แต่พระเจ้าก็นำไปอีกทาง เมื่อเขาได้รับคำชักชวนจากอาจารย์ท่านหนึ่งที่สอนในพระคริสตธรรมกรุงเทพฯ ให้มารับใช้ในการบุกเบิกคริสตจักรใหม่ที่จังหวัดระยอง

ขณะนั้นอาจารย์ดาไรที่เพิ่งเรียนจบและเดินทางกลับไปอยู่บ้านที่อมก๋อยได้ราวครึ่งเดือนก็อธิษฐานใคร่ครวญถึงโอกาสที่ได้รับ แม้อาจไม่ใช่งานรับใช้กับเด็กๆ อย่างที่ตั้งใจไว้เสียทีเดียว แต่เขาก็คิดว่าพระเจ้าเรียกให้ทำจึงตอบตกลงและตัดสินใจเดินทางมาหาประสบการณ์ด้วยการรับใช้ที่จังหวัดระยองดังปัจจุบัน

ย้อนมองดูเส้นทางชีวิตของตัวเองจนกว่าจะมาถึงจุดนี้ อาจารย์ดาไรเชื่อว่าพระเจ้าวางแผนงานและจัดเตรียมเขาให้พร้อมสำหรับรับใช้ด้วยการทรงนำให้เข้ามาอยู่ในโครงการที่เขาได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทักษะชีวิต ความรู้ความเข้าใจในพระคัมภีร์ รวมถึงการฝึกฝนความเป็นผู้นำจากค่ายต่างๆ ที่เขาประทับใจทุกครั้งเมื่อได้มีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและออกประกาศ กระทั่งเปลี่ยนให้เขาเปิดใจเรียนพระคัมภีร์

ผมมองว่าพระเจ้าเรียกใช้ให้ผมมาที่นี่ มาทำงานในคริสตจักร  พระองค์นำผมมาอยู่ตรงนี้เพื่อคอยดูแลลูกแกะของพระเจ้า  ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นตัวตนที่ผมตามหา… ตัวตนที่พระเจ้าบอก”

อาจารย์ดาไรเล่าเพิ่มเติมว่า งานผู้รักษาการณ์ศิษยาภิบาลประจำคริสตจักรเล็กๆ ที่เพิ่งตั้งขึ้นได้ไม่นานทำให้เขาได้ค้นพบตัวตนของตัวเองที่ชัดเจนขึ้นผ่านการเทศนา สอนพระคัมภีร์ นำนมัสการ คอยติดตามหนุนใจสมาชิกอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญคือการออกประกาศตามเป้าหมายของการรับใช้ที่เขาตั้งใจไว้

เป้าหมายที่ทำให้ผมอยากรับใช้คือการได้นำดวงวิญญาณกลับมาหาพระเจ้าและรับพระเยซูเข้ามาสู่ชีวิตผมอยากเห็นทุกชีวิตนมัสการพระเจ้าและได้รับความรอด”

ด้วยความที่คริสตจักรบ้านเปี่ยมรักอยู่ในแหล่งชุมชนโรงงาน ตอนนี้อาจารย์ดาไรจึงเดินหน้าออกประกาศกับคนหลายกลุ่มในชุมชน เริ่มจากเด็กๆ ที่เป็นลูกของพนักงานโรงงานและกลุ่มนักฟุตบอลในโรงงาน ก่อนจะมีแผนขยับขยายไปประกาศกับกลุ่มบ้านพักเอื้ออาทรบริเวณใกล้เคียงในเร็วๆ นี้

เรื่องทั้งหมดรวมเป็นคำตอบได้ว่าสิ่งที่ทำให้เขามาอยู่ในจุดนี้คือ การทรงนำของพระเจ้า  และแน่นอนว่าสิ่งที่จะนำทิศทางให้เขาได้ก้าวต่อไปก็คือ การทรงนำของพระเจ้า เช่นกัน

ข่าว-บทความ ล่าสุด
แนะนำมูลนิธิฯ